บทเรียนราคาแพงจากแบตเตอรี่
นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนความประมาทเลินเล่อและเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ขับรถทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ขับเป็นอย่างเดียวและไม่คิดที่จะหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ด้วยตนเอง ก็ใครจะไปคิดว่าแบตเตอร์รี่ลูกเล็ก ๆ ลูกเดียวจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้มากถึงเพียงนี้
เรื่องมีอยู่ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ก็เลยขับรถไปเปลี่ยนที่ร้านโดยเลือกแบตเตอร์รี่ชนิดเติมน้ำกรดแล้วใช้งานได้ทันที ไม่นานช่างก็บอกว่าเรียบร้อยแล้วจึงชำระเงินแล้วขับรถไปธุระต่างจังหวัดระหว่างทางเมื่อรถตกหลุมหรือผ่านทางขลุขละมาก ๆ จะได้ยินเสียงดังมาจากเครื่องยนต์แต่ไม่ได้เอะใจเพราะความไม่รู้จึงคิดไปเองว่า “มันเป็นเรื่องปกติ” จนกระทั่งมาถึงปั๊มน้ำมันเลยได้มีโอกาสออกมายืดเส้นยืดสายนอกรถทันใดนั้นก็ได้กลิ่นผิดปกติเล็ดลอดออกมาจากห้องเครื่อง แต่ก็ยังคิดว่า “มันเป็นเรื่องปกติ” แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร
จนกระทั่งจะออกเดินทางต่อ เพื่อนที่มาด้วยรู้สึกถึงกลิ่นที่ไม่ปกติจึงขอเปิดกระโปรงหน้ารถดูถึงกระนั้นก็ยังปลอบใจเพื่อนอีกว่า ไม่มีอะไรหรอก “มันเป็นเรื่องปกติ” แต่ก็ทนการรบเร้าจากเพื่อนไม่ได้จึงยอมเปิดฝากระโปรงให้ดู ทันทีที่เพื่อนเปิดกระโปรงหน้ารถขึ้น สีหน้าก็บอกทันทีว่าต้องเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแน่ ๆ
แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า เครื่องยนต์ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้เป็นเครื่องเดียวกับตอนที่เปลี่ยนแบตเตอร์รี่เพราะตอนนี้มันเต็มไปด้วยคราบสีขาว วัสดุที่เป็นยางก็ยุ่ยละลายเป็นจุด ๆ ที่เด่นชัดสุดก็คือตำแหน่งของแบตเตอร์รี่บัดนี้มันเอียงผิดไปจากตำแหน่งเดิม น็อตของสายยึดแบตฯ หลุดหายไป ฝาปิดช่องเติมน้ำกลั่นปิดไม่สนิทตัวถังด้านในด่างเป็นจุด ๆ และยังกระเด็นเลยไปโดนตัวถังด้านนอกอีก โอย!!! ลมแทบจับ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ณ วินาทีนั้นคิดอะไรไม่ออก มันมืดแปดด้าน โชคดีที่ปั๊มนี้มีบริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ จึงขอให้ช่างมาดูซึ่งช่างได้เติมน้ำกรดให้ใหม่ปิดฝาให้สนิท ขยับให้แบตฯเข้าที่เข้าทางขันให้แน่น เอาน้ำเปล่ามาราดที่เครื่งยนต์ให้น้ำกรดเจือจางไปบ้างถึงแม้ว่ามันคงช่วยอะไรไม่ได้มากก็ตาม แล้วแนะนำให้นำรถเข้าอู่ซ่อมตัวถังและสีเพื่อแก้ไขสิ่งที่น้ำกรดกร่อนโดยเร็ว ก่อนที่จะเสียหายมากไปกว่านี้
เป็นอันว่าธุระก็ไม่ได้ไปและยังต้องขับรถกลับกรุงเทพฯอีกเป็นร้อยกิโล ตลอดการเดินทางกลับนึกโทษตัวเองตลอดว่าทำไมเราไม่สนใจเรื่องการดูแลรักษารถยนต์บ้างนะ แค่เสียเวลาอีกไม่กี่นาทีเพื่อตรวจความเรียบร้อยซ้ำอีกครั้งความเสียหายนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น และเมื่อมาถึงอู่ซ่อมสีช่างได้ตรวจสอบให้อย่างละเอียดปรากฏว่าความเสียหายนั้นมากมายกว่าที่คิด ท่อยางและสายไฟต่าง ๆ ที่โดนน้ำกรดต้องเปลี่ยนใหม่หมด ส่วนที่เป็นโลหะถ้าปล่อยทิ้งไว้สนิมจะขึ้น ชิ้นส่วนไหนที่พอจะขัดออกได้ก็ขัดออกแล้วเคลือบป้องกันสนิมใหม่ ชิ้นส่วนที่เสียหายมากก็ต้องเปลี่ยน นอกจากนี้ ฝากระโปรง,กันชนหน้า,กระจังหน้า,แก้มหน้าซ้าย(ด้านที่แบตฯอยู่) เรียกได้ว่าแทบจะทุกชิ้นส่วนได้รับความเสียหาย วิธีการแก้ไขก็ต้องถอดส่วนต่าง ๆ ออกมาเป็นชิ้น ๆ เพื่อให้ช่างได้ทำงานได้สะดวก แล้วคุณจะรู้สึกยังไงถ้าได้เห็นรถคันงามของคุณในสภาพที่ถูกถอดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เบ็ดเสร็จแล้วงานนี้หมดค่าซ่อมไปหลายหมื่นบาท นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต ตั้งแต่วันนั้นคู่มือการใช้รถทีไม่ได้เปิดอ่านเลยตั้งแต่ซื้อรถมาใหม่ ๆ ก็ถูกทำความรู้จักอย่างละเอียดถี่ถ้วนครบทุกตัวอักษรนอกจากนั้นยังได้ทำความรู้จักกับเครื่องยนต์ในจุดต่าง ๆ ว่าเรียกว่าอะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง เพื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่เกิดปัญหาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ซ้ำอีก
เพราะแค่นี้ก็ทำให้จำไปจนตายแล้ว!
ที่มา : clicksmartcar.com