มาสด้า BT-50 อีกหนึ่งตัวเลือกกระบะไทย
หลังจากพันธมิตร ฟอร์ด เปิดตัว “เรนเจอร์ใหม่” ไปเมื่อ 2 วันก่อน วันนี้ (9 มี.ค.) ถึงคิวของมาสด้าบ้าง โดยรถปิกอัพใหม่ของมาสด้ามาในชื่อ “ มาสด้า BT-50” และจะเป็นชื่อที่ใช้สำหรับตลาดทั่วโลกด้วย ส่วนความหมายของคำว่า BT-50 นั่น เริ่มจากตัวอักษร BT ย่อมาจาก B-Series Truck ซึ่งเป็นรหัสที่ใช้เรียกรถปิกอัพมาสด้ามาอย่างยาวนาน และถือเป็นตำนานรถปิกอัพของมาสด้า ในส่วนตัวเลข 50 หมายถึงความสมดุลที่อยู่กึ่งกลางของน้ำหนักการบรรทุกของปิกอัพครึ่งตันและปิกอัพที่มีน้ำหนักบรรทุกมากว่า 1 ตัน
อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าฟอร์ดกับมาสด้าเป็นพันธมิตรกัน ดังนั้นรถปิกอัพใหม่ของทั้ง 2 รายนี้จะใช้เทคโนโลยีตัวเดียวกัน เช่น เครื่องยนต์, ระบบความปลอดภัยที่ใส่ในรถ เป็นต้น แต่สิ่งที่แตกต่างกันที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของหน้าตาและอุปกรณ์รายละเอียดภายในรถ รวมถึงการตั้งราคาขาย
มาสด้า BT-50 ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยแนวคิดหลัก 5 ประการ คือ การออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม และทรงพลังเพื่อสร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่น,การใส่ใจในความประณีตทุกรายละเอียดเพื่อสร้างความสวยงามและความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้เป็นเจ้าของ ,ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ ด้วยเครื่องยนต์ ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์ คูลเลอร์ ใหม่ล่าสุด ที่ให้ทั้งความแรงและความประหยัดในเวลาเดียวกัน ,อรรถประโยชน์ใช้สอยเพียบ ทั้งนี้เพื่อรองรับรูปแบบการใช้งานอันหลากหลายได้อย่างลงตัวและยกระดับความปลอดภัยสูงสุดให้เหนือกว่ารถกระบะทั่ว ๆ ไป
ดังนั้นรูปลักษณ์ของมาสด้า BT-50 จึงถูกออกแบบให้มีกระจังหน้าและกันชนหน้า ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน, และด้วยกระจังหนาแบบห้าเหลี่ยมถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า โดยมีแถบโครเมียมติดตั้งไว้เหนือสัญลักษณ์มาสด้าขนาดใหญ่ และในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อทุกรุ่น จะติดตั้งชุดโป่งข้างเหนือซุ้มล้อทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มเสริมความทะมัดทะแมง แข็งแกร่ง ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสองล้อทุกรุ่น จะมีแผงบังโคลนตัวถังเหนือซุ้มล้อที่ออกแบบให้มีแนวเส้นโป่งข้างในตัว ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกันกับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนในรุ่นฟรีไตล์แค็บ ไฮ-ไรเดอร์ จะถูกเสริมด้วยแผงโปร่งข้างเหนือซุ้มล้อ และยางขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้โดดเด่นสะดุดตา
ชุดไฟหน้าออกแบบขึ้นมาใหม่ แบบมัลติรีเฟคเตอร์ พร้อมชุดไฟเลี้ยวฝังไว้ในเบ้าด้วยกันและพ่นรองพื้นด้วยสีดำ เพื่อเพิ่มบุคลิกสปอร์ตร่วมสมัย ขณะที่ไฟท้ายได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับชุดไฟหน้า ในบางรุ่นจะถูกติดตั้งมือจับเปิดฝากระบะหลังและสัญลักษณ์ชื่อรุ่น BT-50 แบบโครเมียมเพื่อเสริมความโดดเด่นในกับตัวรถมากยิ่งขึ้น
ล้ออัลลอยลายสปอร์ต ทั้งขนาด 15 และ 16 นิ้ว ออกแบบขึ้นให้สอดคล้องกับแนวเส้นสายของตัวรถ ,สีตัวถังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งโมโนโทนและสีแบบทู-โทน เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสรรเฉดสีที่ตรงใจ และในบางรุ่นจะเพิ่มแถบคาดด้างข้างเพื่อช่วยให้ตัวรถดูมีรสนิยม
สำหรับการออกแบบภายในรถเน้นให้เหมือนรถเก๋งชั้นดี ด้วยการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสีแบบทู-โทน โดยใช้สีเทาเป็นสีโทนหลักตัดกับสีเบจ ประดับด้วยวัสดุสีเงินในจุดต่าง ๆ ส่วนแผงหน้าปัดได้รับการออกแบบขึ้นในแนวทางเดียวกันกับแผงหน้าปัดที่มีอยู่ในรถยนต์มาสด้ารุ่นอื่น ๆ โดยเฉพาะชุดมาตรวัดแบบ 3 ช่องวงกลมล้อมกรอบด้วยวงแหวนสีเงิน เพิ่มบุคลิกหรูสไตล์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น,ชุดเครื่องเสียง ติดตั้งอยู่บริเวณแผงควบคุมกลาง ตกแต่งด้วยสีเงิน ,การตกแต่งห้องโดยสาร ทั้งบริเวณแผงประตู และชุดเบาะนั่ง ถูกคัดสรรให้มีการตกแต่งทั้งการใช้ไวนิล เบาะผ้าและเส้นใยถักทอเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน
ด้านเครื่องยนต์แน่นอนเป็นตัวเดียวกับฟอร์ด เรนจ์เจอร์ ใหม่ คือ เครื่องยนต์ดีเซล ไดเรคท์อินเจ็คชัน เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ มาพร้อมระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดคอมมอนเรล มีให้เลือกทั้งแบบ MZR-CD (WEC) 3000 ซีซี 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร และ MZR-CD (WLC) 2500 ซีซี 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ทั้งคู่ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่แรงที่สุดในรถปิกอัพเมืองไทย (เช่นเดียวกับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่) เพราะให้แรงบิดสูงสุด เริ่มต้นที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1800 รอบ/นาที
ทั้งสองขุมพลัง มีจุดเด่นในด้านความแรง , ความประหยัด, ความทนทาน จะถูกติดตั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะแบบใหม่เพื่อให้การถ่ายทอดกำลังสู่ล้อขับเคลื่อนเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ และนอกจากนี้มาสด้า BT-50 ยังติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ รายแรกในเมืองไทยด้วย
ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มีระบบการทำงานให้เลือก 2 แบบ คือ แบบคันโยกเปลี่ยนระบบธรรมดา ซึ่งทนทานต่อการใช้งานหนักหน่วง และระบบไฟฟ้า RFW (Remote Free Wheel) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการทำงานจากขับเคลื่อนสองล้อเป็นสี่ล้อได้เพียงกดปุ่มบริเวณตอนล่างของแผงหน้าปัดและสามารถเลือกเปลี่ยนระบบได้ทั้งที่รถยังแล่นอยู่หรือระบบ On the Fly เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนทำได้อย่างรวดเร็ว
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ ดับเบิลวิชโบน และด้านหลัง เป็นชุดแหนบที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล และยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น โดยยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง ทรทรหดเพื่อการบรรทุก
นอกจากนี้มาสด้า BT-50 ยังได้รับการติดตั้งกุญแจระบบ Keyless-Entry ในบางรุ่น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการสั่งล็อกและปลดล็อกประตูในขณะที่มือของคุณเต็มไปด้วยสัมภาระ
ระบบความปลอดภัยของมาสด้า BT-50 ใหม่ ติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นดิสก์เบรกพร้อมรูระบายอากาศคู่หน้า และระบบดรัมเบรกหลังที่ถูกปรับปรุงให้มีระบบเบรกสั้นลง เหมาะสำหรับการใช้งานของรถปิกอัพ เสริมด้วยการทำงานของระบบ 4W-ABS4 เซ็นเซอร์,นอกจากนี้ยังติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างให้ทำงานกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า รวมทั้งสิ้น 4 ใบ
มาสด้า BT-50 ใหม่ มีให้เลือก 3 แบบ ทั้งรุ่นกระบะมาตรฐาน ซิงเกิลแค็บ ราคาเริ่มต้นเพียง 452,900 บาท , รุ่นฟรีสไตล์แค็บ มีบานแค็บเปิดได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 516,900 บาท และรุ่นดับเบิลแค็บ 4 ประตู อเนกประสงค์ ราคาเริ่มต้นเพียง 583,900 บาท ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละรุ่น รวมถึงรุ่นท็อปนั้นจะมีการประกาศราคาอีกครั้ง ในงาน มอเตอร์โชว์ ปลายเดือนนี้
ที่มา : www.manager.co.th