ในส่วนของเงื่อนไขการรับประกันนั้น บริษัทจะรับประกันระบบเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ซีเอ็นจี ในรถเชฟโรเลต ออพตร้า 1.6 ลิตร ที่ได้รับการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งระบบก๊าซซีเอ็นจีที่บริหารและจัดการโดย เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยเท่านั้น ส่วนระยะการรับประกันจะนับจากวันที่รถยนต์ได้ผ่านการตรวจสอบระบบการติดตั้งระบบเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเป็นวันเริ่มต้นการรับประกัน
"ลูกค้าที่สนใจสามารถแสดงความจำนงต่อศูนย์บริการเชฟโรเลตทั่วประเทศในการติดตั้งระบบก๊าซซีเอ็นจี โดยเปิดโอกาสให้ทั้งลูกค้าที่ใช้รถยนต์เชฟโรเลต ออพตร้า 1.6 ลิตรอยู่แล้ว หรือสามารถสั่งจองรถใหม่ที่ติดตั้งระบบก๊าซซีเอ็นจีแล้วเสร็จก่อนรับรถก็ได้ ซึ่งลูกค้าจะได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการติดตั้งจากการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยในมูลค่า 10,000 บาท ตามเงื่อน ไขของ ปตท."
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ซีเอ็นจี ออกสู่ตลาดเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกให้กับผู้บริโภค และส่งเสริมนโยบายลดการใช้พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศด้วย โดยรถรุ่นนี้จะติดตั้งระบบเชื้อเพลิงแบบผสมที่เรียกว่า dual-fuel นั่นคือ การเผาผลาญเชื้อเพลิงโดยการฉีดผสมร่วมกันของทั้งน้ำมันดีเซลและก๊าซซีเอ็นจี ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทดสอบและทดลองติดตั้ง โดยตกลงให้ยูเอส เอเนอร์จี คอร์ปอเรชั่น (US Energy) เป็นผู้ผลิตระบบเชื้อเพลิงแบบ dual-fuel นี้ ป้อนให้กับทางบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับการริเริ่มติดตั้งเชื้อเพลิงแบบผสมในรถกระบะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยของทางเชฟโรเลตนี้ เนื่องจากรถกระบะเป็นรถที่มีความต้องการสูง มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในประเทศ และเมืองไทยยังเป็นตลาดรถกระบะใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว
นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตรถกระบะในเมืองไทยสะสมในปี 2548 มีจำนวนทั้งสิ้น 823,000 คัน ซึ่งคาดว่ายอดการผลิตจะพุ่งถึง 1 ล้านคันในปี 2549 นี้ โดยเป็นยอดการผลิตเพื่อส่งออกประมาณ 38%
ขณะที่ศูนย์การผลิตรถยนต์เจนเนอรัล มอ เตอร์ส ที่จังหวัดระยอง ได้ลงทุนเพิ่มอีกกว่า 2,700 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานทำสีแห่งใหม่ และจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตจาก 110,000 คันต่อปี เป็น 160,000 คันต่อปี เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทย และเพื่อการส่งออกในตลาดอีก 100 ประเทศทั่วโลก
สำหรับเชื้อเพลิง 2 ระบบในรถเชฟโรเลต โคโลราโด จะเป็นแบบดูอัลฟิว (dual fuel) โดยใช้น้ำมันดีเซลและก๊าซซีเอ็นจี ซึ่งสามารถทำงานพร้อมกันแบบฉีดผสม หรือสามารถเปลี่ยนไปใช้น้ำมันแบบ 100% ได้ และขณะที่ระบบทำงานแบบฉีดผสมนั้น จะเป็นการใช้ในสัดส่วนของก๊าซซีเอ็นจี 80% และน้ำมันดีเซล 20%
"การแนะนำรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ซีเอ็นจี แบบระบบ dual fuel ในตลาดรถกระบะของประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้น แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเชฟโรเลต ในการเป็นผู้นำในด้านการเสนอนวัตกรรมแนวใหม่ เทคโนโลยีแบบใหม่ๆ ให้เป็นทางเลือกที่เปี่ยมด้วยคุณภาพให้แก่ลูกค้าชาวไทยมากยิ่งขึ้น เช่นที่ผ่านมาเราเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของรถกระบะเมืองไทย ด้วยการแนะนำระบบล็อกเฟืองท้ายกลไกอัตโนมัติ G80 diff-lock ที่มีแต่ในเชฟโรเลต โคโลราโด เพียงผู้เดียวเท่านั้น"
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ